Home » How to » ดูดี เก๋ไก๋ ในงบ! 5 เทคนิคเลือกนาฬิกาข้อมือให้เข้ากับไลฟ์สไตล์
ดูดี เก๋ไก๋ ในงบ! 5 เทคนิคเลือกนาฬิกาข้อมือให้เข้ากับไลฟ์สไตล์
ดูดี เก๋ไก๋ ในงบ! 5 เทคนิคเลือกนาฬิกาข้อมือให้เข้ากับไลฟ์สไตล์
เครื่องประดับเป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงตัวตนที่แท้ทรูข้างในจากใจของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนาฬิกาข้อมือที่เป็นเครื่องประดับที่มีหลากหลายแนวให้เลือกใส่ ทั้งแบบนักธุรกิจ แนวสตรีทแฟชั่น หรือแนวสปอร์ตลุย ๆ ซึ่งหากพูดกันในเรื่องราคาก็ยิ่งกว้างขวางกว่าสไตล์ของนาฬิกาอีก ตั้งแต่หลักร้อยต้นจนถึงหลักสิบล้าน ร้อยล้านกันเลยทีเดียว
แต่ละคนย่อมมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน ลองมาดู วิธีเลือกนาฬิกาข้อมือ ให้เข้ากับบุคลิก ไลฟ์สไตล์ เสื้อผ้าหน้าผมของคุณกันว่าจะแมตช์กับว่าที่นาฬิกาข้อมือเรือนโปรดอย่างไร
1.ขนาดข้อมือผู้สวมใส่
เป็นหลักของตายข้อแรกที่ทุกคนต้องพิจารณาจริง ๆ ในเรื่องของขนาดข้อมือ ซึ่งคนข้อมือใหญ่จะไม่มีข้อควรระวังกับสไตล์ และรูปทรงของนาฬิกาสักเท่าไร ให้ระวังเรื่องการวัดสายนาฬิกาให้พอดีกับข้อมือก็พอ
ส่วนผู้ที่มีข้อมือขนาดเล็กทั้งหญิงและชาย ถ้าให้ดีควรเลือกใช้แบบหน้าปัดทรงกลมขนาดพอเหมาะ ให้เต็มในระหว่างกระดูกข้อมือสองด้าน โดยไม่ควรเลือกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็ก ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ข้อมือของคุณดูแคระแกรนกว่าเดิมอีก แต่ก็ใช่ว่าจะเลือกหน้าปัดแบบใหญ่โตจนกลบข้อมือมิดไปก็ดูไม่ดีเท่าไรนะ
2.เลือกนาฬิกาให้เหมาะกับวัย และโอกาส
ข้อนี้จะออกเป็นแนวทาง วิธีเลือกนาฬิกาข้อมือให้ถูกโฉลก ไม่ได้เน้นไปทางดวงชะตา แต่เน้นการเลือกให้เข้ากับวัยวุฒิ หน้าที่การงาน การแต่งกายเสียมากกว่า สมมติคุณเป็นผู้บริหาร ประธานบริษัท มาดขรึม แต่เลือกใส่ Sanrio Hello Kiity สีชมพูหวานแหวว มันก็คงจะดูไม่เข้ากับบุคลิกแม้ว่าจะใจจริงคุณจะชอบมากก็ตามที ดังนั้นในวันทำงานคุณอาจใช้นาฬิกาแบรนด์เด่น ๆ สักเรือน กับสายนาฬิกาแบบหนัง หรือโลหะ ที่ออกแบบเรียบ ๆ เน้นความหรู ดูภูมิฐานแทน
ข้อนี้จะไม่มีปัญหาอะไรหรอก ถ้าคุณเป็นคนไม่แคร์สายตาใคร ก็ความชอบเราสักอย่างอะนะ แต่เชื่อเถอะใส่ให้เข้ากับลุคกับวัยจะดูเหมาะสมกว่าจริง ๆ
3.สายนาฬิกา
สายนาฬิกาข้อมือมีหลายประเภท เลือกวัสดุ และสีให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับตัวเรือน หรือสภาพผิวของคนใส่ บางคนแพ้หนัง บางคนระคายเคืองต่อโลหะ โดยสายนาฬิกาแบ่งออกได้เป็น 4 อย่างดังนี้
- สายหนัง เป็นสายนาฬิกาแบบคลาสสิก มีมายาวนาน ให้ความรู้สึกโอ่อ่า ภูมิฐาน สวยหรู เหมาะกับนาฬิกาแทบทุกแบบ ยกเว้นแบบสปอร์ต สายหนังมีข้อควรระวังคือกลิ่นอับ บางท่านมีเหงื่อเยอะ แล้วไม่ค่อยทำความสะอาด ถอดนาฬิกาออกมากลิ่นเหมือนถอดถุงเท้า หรือกางเกงในใช้แล้วหลายวัน สายหนังบางท่านอาจแพ้สารกันเชื้อรา หรือสารที่เคลือบลงไปบางชนิดได้เช่นกัน
- สายโลหะ สเตนเลส ให้ความรู้สึกเป็นทางการ ดูหรู และมีความทนทานที่สุด แต่ก็แลกมาด้วยน้ำหนักที่มากกว่า และอาจเกิดอาการแพ้ในบางคนได้ (แพ้โลหะบางชนิด กับสีหรือสารชุบกรณีไม่ใช่เงินแท้ ทองแท้ )
- สายเซรามิค เป็นทางเลือกสำหรับผู้ไม่ชอบกลิ่นของสายหนัง และแพ้สายโลหะ สายเซรามิคจะมีความแข็งแรง ทนต่อการเป็นรอยขีดข่วน แต่ต้องระวังคือแตกง่าย หล่นทีมีร้อง
- สายยาง ซิลิโคน เป็นสายที่นิยมกันมากขึ้นในระยะหลัง เนื่องจากมีความยืดหยุ่น ราคาไม่แพง เปลี่ยนสีได้มากมายตามแฟชั่น กันน้ำ มีข้อเสียจากผิวสัมผัสที่สากทำให้เก็บฝุ่น เป็นที่หมักหมมของคราบได้ง่าย ต้องหมั่นถอดออกมาทำความสะอาด
- สายผ้า มีความเบา ใส่สบายกว่าทุกประเภทสาย ราคาถูก หากเลือกสีเข้ากับตัวเรือนก็ดูสวยไม่แพ้สายแบบอื่น มีข้อเสียคือความทนทาน อาจขาดได้หากใส่ไม่ถนอม กับสีที่ซีดลงตามวันเวลา และการนำไปซัก
4.คุณสมบัติของนาฬิกา
ต้องรู้ก่อนว่าต้องการนาฬิกาไว้ใช้งานด้านไหน หากเน้นให้ดูภูมิฐาน นักธุรกิจ และชอบความคลาสสิกก็เลือกใช้นาฬิกาแบบอนาล็อคที่เป็นเข็มวิ่งปกติ จะเลือกระบบไขลานแบบเก่า หรือแบบใส่ถ่าน ซึ่งถ้าเป็นคนเล่นนาฬิกาแบบจริงจังก็จะมีแบบ Mechanical รายละเอียดลึกลงไปถึงตัวกลไก จักรกลของตัวนาฬิกาซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแต่ละแบรนด์อีก
ปัจจุบันคนรุ่นใหม่นิยมใส่ Smartwatch กันแล้ว เพราะหลายแบรนด์ในปี 2020 เป็นต้นมามีราคาที่จับต้องได้ และมีฟังก์ชั่นต่าง ๆ มากมายที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เช่น การวัดอัตราการเต้นหัวใจ, วัดคุณภาพการนอน, ประเมินผลการออกกำลังกายรูปแบบต่าง ๆ , ใช้ฟังเพลง หรือแม้กระทั่งใช้คุยโทรศัพท์แทนสมาร์ทโฟนก็มี
5.งบประมาณ
มาเป็นข้อสุดท้ายแต่จริง ๆ อยากให้ตั้งเป็นตัวเลือกแรกที่พิจารณา เพราะเราอยากให้คุณมีนาฬิกาในงบที่ตั้งไว้ ไม่ซื้อของเกินความจำเป็น เพราะความอยากมี แต่อาจไม่ได้ใช้งานมันให้คุ้มค่า หรือซื้อมาแพงแต่ต้องประหยัดเงินทานข้าวไปหลายเดือนก็ยังไง ๆ อยู่
